คนตัวเล็กในระบบใหญ่โตอันซับซ้อน
นักศึกษามีอะไรจะถามไหมครับ ?…เงียบ…หลบตา…ไม่ตอบ
นักศึกษาคิดว่าได้เรียนรู้อะไรบ้างครับ ?…เงียบ…มองตากัน..ไม่ตอบ
สอนนักศึกษา 3 ชั่วโมง สอนเสร็จอาจารย์กลับไปไม่รู้จักนักศึกษาเลยสักคน
เอ้!!! เรากำลังทำอะไรอยู่ สอน ? พูดแลกเงิน? สร้างคน? สร้างโลกใหม่ ?
ละครก็เหมือนคนเต้นกินรำกิน ประโลมโลก แค่สนุกเปล่าเปล่า
หนึ่งปีผ่านไป
นักศึกษาแย่งกันพูด ช่วยกันแชร์ แววตาบ่งบอกว่าตัวเองเปลี่ยนไป เรียนอย่างมีความสุข
ช่วยกันถาม เกิดแรงบันดาลใจ รู้สึกได้ว่านักศึกษาที่เปลี่ยนไปหลังการสอน สอนเสร็จเราเองรู้จักนักศึกษาแทบทุกคน ได้รู้จักตัวตนของเขา ได้ยินความคิด ความรู้สึก ความกังวล ความฝัน ของนักศึกษา
เออ…มันใช่หว่ะ..สอนน้อยลงแต่นักศึกษามีความสุข ความตั้งใจมากขึ้น..เราเองก็สุขมากขึ้น
![feature3](https://makhampom.org/wp-content/uploads/2017/12/feature3.jpg)
บทความเขียนเล่าการเดินทางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
จาก ผศ.ดร.นันทวัช สิทธิรักษ์
คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
ในช่วงตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา มูลนิธิสื่อชาวบ้าน (มะขามป้อม) ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับนักจัดกระบวนการที่หลากหลาย ภายใต้โครงการโครงการพัฒนาหลักสูตรต้นแบบและวิทยากรฝึกอบรม (Train-The-Trainer Program) หลักสูตร “ละคร : กระบวนการสื่อสารเพื่อการเปลี่ยนแปลง ร่วมกับศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ (สสส) โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการประมาณ 80 คน โดยมีเงื่อนไขสำหรับผู้ที่จะเข้ามาร่วมโครงการในครั้งนี้จะต้องมีเงื่อนไขคือผ่านหลักสูตรละครเพื่อความเข้าใจความเป็นมนุษย์ระดับเบื้องต้นก่อน แล้วจึงจะสามารถเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ได้ ใครเข้าเกณฑ์คุณสมบัติขั้นต้นก็ส่งเจตจำนงแสดงความคาดหวังของการเข้าร่วม ใบสมัครถูกส่งเข้ามาอย่างมากมาย และได้ทำการคัดเลือกผู้ที่สนใจเพื่อร่วมเรียนรู้อบรมในหลักสูตรที่จะเกิดขึ้น
![feature2](https://makhampom.org/wp-content/uploads/2017/12/feature2.jpg)
ขอขยายความเล่าที่มาของผู้ร่วมเรียนรู้กันสักนิด เพราะที่มาของผู้เข้าร่วมน่าสนใจยิ่งนักเบื้องหลังของผู้ที่มาร่วม ทั้งอาจารย์หมอที่อยากสร้างหมอรุ่นใหม่ให้มีหัวใจ อาจารย์ครุศาสตร์อุตสาหกรรมวิศวะอยากหาวิธีการเรียนรู้ออกแบบกระบวนการเรียนรู้ลื่นไหลไม่เป็นแท่ง หรือแม้ในระดับชั้นมัธยมกับครูนอกกรอบที่อยากพาเด็กข้ามพ้นขอบการเรียนรู้ ผู้ที่มีประสบการณ์เป็นนักจัดกระบวนการที่ทำเรื่องกระบวนการเรียนรู้ด้านในก็อยากแสวงหาทางเลือกการเรียนรู้ที่ต่างไปจากเดิม คนทำงานเพื่อสังคมที่ขับเคลื่อนประเด็นทางสุขภาพทั้งเรื่องเพศ บุหรี่ เหล้า สุขภาพ หรือประเด็นเรื่องพัฒนาเด็กและเยาวชน ที่ก็อยากได้วิธีคิดวิธีการที่จะทำให้งานกลมกล่อมรอบด้านมากขึ้น หรือแม้แต่คนที่ทำงานกับเด็กพิเศษเช่นเด็กตาบอด หรือคนทำงานกับผู้พิการที่อยากได้แนวทางการเรียนรู้ที่จะสร้างพื้นที่ความเข้าใจมากกว่าความสงสาร ผู้คนที่มาร่วมในโครงการนี้ในครั้งนี้..มาด้วยความหวังและพลังที่จะกลับไปสร้างการเปลี่ยนแปลง
มะขามป้อม เป็นเสมือนเป็นเจ้าภาพที่สร้างความรู้และสร้างพื้นที่ที่นำพานักจัดกระบวนการทั้ง 80 คน มาร่วมเรียนรู้ในพื้นที่แห่งนี้ จึงทำหน้าที่สร้างการเรียนรู้แบ่งปันความรู้จากการประสบการณ์ทำงาน ที่จะเกาะเกี่ยวกันเป็นชุมชนที่มีประสิทธิภาพ และเป็นพื้นที่กลางเพื่อดึงประสบการณ์ของทุกคนมาแบ่งปันเพื่อแลกเปลี่ยนแบ่งกัน ที่ต้องใช้ความคิด ความเชื่อ และไม่ละทิ้งอารมณ์ความรู้สึก เราจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เรียกได้ว่า เปลี่ยนทั้งเนื้อทั้งตัว เพื่อนำไปสู่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง
![feature1](https://makhampom.org/wp-content/uploads/2017/12/feature1.jpg)
ในช่วงตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เราสร้างความรู้ด้วยการออกแบบและพัฒนา “หลักสูตรต้นแบบ” ที่มีรูปแบบเฉพาะในลักษณะการอบรมเชิงปฏิบัติการจำนวน 3 หลักสูตร คือสำหรับการทำงานภายใต้โครงการนี้
(1) กระบวนการละครสร้างสันติเพื่อสังคมสุขภาวะ
(2) การออกแบบการเรียนรู้ที่มีหัวใจ
(3) การสื่อสารสร้างสรรค์เพื่อการเปลี่ยนแปลง
ในระหว่างการเดินทางได้มีการปรับและพัฒนา ‘ 3 หลักสูตรต้นแบบ’ ให้มีลักษณะเฉพาะ สามารถสร้างพื้นที่การเรียนรู้ที่ชี้ชวนและยืดหยุ่นให้ผู้เข้าร่วมนำไปประยุกต์ใช้จนเกิดทักษะใหม่ ความรู้ใหม่ ประสบการณ์ใหม่ และกระบวนทัศน์ใหม่ ตรงกับความต้องการที่มีความหลากหลายของผู้เข้าร่วมมากขึ้น ในห้องเรียนการเรียนรู้ที่มีลักษณะเฉพาะแบบมะขามป้อมที่ทั้งสนุก สร้างสรรค์ มีส่วนร่วม และสร้างการเปลี่ยนแปลง โดยเคารพประสบการณ์ผู้เรียน ทำให้เกิดการออกแบบกระบวนการที่เรียงร้อยแบบเป็นขั้นตอนผสานกับบรรยากาศการเรียนรู้จากผู้เข้าร่วมที่ตลบอบอวนไปด้วยความกระหายใคร่รู้ โดยเฉพาะช่วงการ Reflection ที่มีความสำคัญไม่แพ้ช่วงกระบวนการเรียนรู้ การตกตะกอนถอดความความรู้ การช่วยกันต่อยอด เติมเต็มกันและกัน ช่างเป็นไปด้วยความเข้มข้น ด้วยความหลากหลายและความเชี่ยวชาญของผู้เรียน แต่ที่นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเรียนรู้สำหรับ Train The Trainer ห้องเรียนที่ถูกออกแบบมาอย่างเลือกสรร ผนวกเข้ากับผู้เรียนที่มีศักยภาพพร้อมเรียนรู้และเปิดรับ และพร้อมจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปต่อยอดสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมในงานตัวเอง
หลังจากจบการเรียนรู้ทั้ง 3 หลักสูตร มะขามป้อมยังมีโอกาสได้ลงไปในพื้นที่ไปเอาใจช่วย เพื่อน ๆ ในช่วงที่ทำกระบวนการ ในห้องเรียน หรือห้องปฏิบัติการ เราใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างเพื่อให้มีความหลากหลายและเพื่อดูว่าหลักสูตรที่มะขามป้อมสร้างขึ้นมาได้เข้าไปช่วยเติมเต็มให้กับเพื่อนๆนักจัดกระบวนการเรียนรู้ได้จริงหรือไม่ การได้เข้าไปสังเกตห้องเรียนแต่ละห้องเรียนเมื่อเราเข้าไปเห็นสิ่งหนึ่งที่เห็น ในฐานะคนทำงานเราตื่นเต้นกับการแตกหน่อต่อเติมความรู้ในพื้นที่ใหม่ อย่างเช่นห้องเรียนที่เน้นเข้มเนื้อหาอย่างห้องเรียนเรื่องเพศที่จะไม่ทิ้งใครที่เห็นต่างไว้ข้างหลัง แม้งานแบบนี้เป็นงานที่ต้องทำงานเพื่อเปลี่ยนทัศนคติแต่ต้องประนีประนอมกับขั้วความคิดที่เห็นต่าง อีก้องเรียนที่น่าสนใจที่ไม่ทำให้คนที่ตกอยู่ในปัญหานั้นรู้สึกว่าตัวเองเป็นฆาตกรอย่างโรงเรียนปอดสะอาด ที่ไม่กันเด็กที่สูบบุหรี่ออกจากกระบวนการแต่การมีพื้นที่ยอมรับ และให้เด็กเข้ามามีส่วนร่วมแก้ปัญหานั้น ๆ จะทำให้เห็นทางแก้ปัญหาใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นและเป็นจริง ห้องเรียนทางสายแพทย์ห้องเรียนหมอที่เปิดพื้นที่สนใจคำถามมากกว่าคำตอบ ชวนนักศึกษาหยุดใคร่ครวญยอมรับความเป็นมนุษย์ผ่านเครื่องมือละครเพื่อนำไปสู่ความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หรือแม้แต่การสร้างพื้นที่เรียนรู้จากคนที่มองเห็นกับคนที่มองไม่เห็น ให้ไปมากกว่าความสงสารไปสู่ความเข้าใจมองให้เห็นกัน ถึงแม้เราจะไม่เห็นกันก็ตาม
![Artboard 4](https://makhampom.org/wp-content/uploads/2017/12/Artboard-4.jpg)
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ทุกคนกลับไปสร้างพื้นที่ในแบบของตัวเอง ที่เมื่อหัวใจเปลี่ยน มุมมองเปลี่ยน ความรู้สึกเปลี่ยน เราจะทำสิ่งเดิมในแบบใหม่ และการเปลี่ยนแปลงค่อย ๆ ก่อร่างขึ้นแล้ว การรวมตัวกันของเหล่านักจัดกระบวนการเรียนรู้ในครั้งนี้ เป็นนัยยะสำคัญ เป็นความหมายกับสังคม ไม่ต้องมีนโยบายกำหนดเป็นวาระชาติ แต่ทั้งหมดมารวมกันด้วยภารกิจวาระชีวิต ที่อยากร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลง
หลักสูตรนี้ไม่ใช่ “สูตรสำเร็จ” แต่คือตัวอย่างที่เหนี่ยวนำให้แต่ละคนก้าวออกจากจุดยืนเดิมสู่พื้นที่การเรียนรู้ใหม่ สร้างประสบการณ์ใหม่ร่วมกัน และช่วยกันต่อเติมแปรเปลี่ยน ประยุกต์ใช้ข้ามฐานคิดและศาสตร์ต่าง ๆ จนทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
งานนี้จึง “ยังไม่เสร็จ” เป็นเพียงเค้าโครงเริ่มต้น ที่พอจะมองเห็น “ระหว่างทาง” และการส่งต่อจากคนหนึ่ง ไปยังกลุ่มหนึ่ง ไปสู่ชุมชนหนึ่ง ชั่วเวลานั้น, เราจะตั้งคำถามและหาคำตอบด้วยตัวเองว่า การเปลี่ยนแปลงนั้น เกิดจาก “โลกภายใน” หรือ “โลกภายนอก” และมันสัมพันธ์กันอย่างไร